Connect with us

สิ่งที่ใช้ในการรีไฟแนนซ์บ้าน

ก่อนที่จะยื่นรีไฟแนนซ์บ้านนั้น ควรที่จะศึกษารายละเอียดข้อมูล เพื่อจะได้เตรียมตัวและเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน เพื่อจะได้ไม่เกิดข้อผิดพลาด

ขอรีไฟแนนซ์บ้านต้องเตรียมอะไรบ้าง

หากคุณกำลังผ่อนบ้านอยู่ อาจจะรู้สึกว่าผ่อนหนักเกินไปเพราะดอกเบี้ยสูง และอยากลดดอกเบี้ยให้น้อยลง การรีไฟแนนซ์บ้าน เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้คุณประหยัดดอกเบี้ย สำหรับบางคนแล้วการรีไฟแนนซ์บ้านอาจจะรู้สึกว่าขั้นตอนซับซ้อนเกินไปหรือกลัวเรื่องค่าใช้จ่ายในการขอรีไฟแนนซ์บ้าน เช่น ค่าธรรมเนียม อาจจะไม่คุ้ม การรีไฟแนนซ์บ้านไม่ได้ยุ่งยากอย่างคิด ให้ Tadoo เป็นอีกทางเลือกสำหรับคุณ รีไฟแนนซ์บ้านต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง มีดังต่อไปนี้

1. เอกสารแสดงข้อมูลส่วนบุคคล
2. เอกสารแสดงรายได้
3. เอกสารด้านหลักประกัน

จุดเด่น

  • เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน
  • การรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อลดดอกเบี้ย

เอกสารแสดงข้อมูลส่วนบุคคล

เอกสารประเภทนี้จะเป็นเอกสารเกี่ยวกับผู้กู้ เพื่อให้ธนาคารสามารถยืนยันตัวตนได้ว่า เป็นตัวผู้กู้จริงๆ ไม่ใช่บุคคลอื่นมาแอบอ้าง โดยส่วนใหญ่เอกสารประเภทนี้จะประกอบด้วย
– สำเนาบัตรประชาชน
– สำเนาทะเบียนบ้าน
– สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
– สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน ของคู่สมรส (ถ้ามี)
– สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี) / หย่า (ถ้ามี)
– สำเนาใบมรณบัตร และทะเบียนสมรสของคู่สมรส (กรณีคู่สมรสเสียชีวิต)

เอกสารแสดงรายได้

ในส่วนนี้จะเป็นส่วนหลักที่ธนาคารใช้พิจารณาว่าเราเข้าเงื่อนไขของธนาคารหรือไม่ เพราะสามารถแสดงสถานะทางการเงิน รายได้ และประวัติการเดินบัญชี ซึ่งเอกสารประเภทนี้จะถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่ม

1. กรณีบุคคลมีรายได้ประจำ
– สลิปเงินเดือน ย้อนหลัง 3 เดือน หรือหนังสือรับรองการทำงาน
– สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน
– หนังสือผ่านสิทธิสวัสดิการ (ถ้ามี)
– สำเนารับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) (สำหรับบางธนาคารเท่านั้น)

2. กรณีบุคคลที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว
– สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน/ใบทะเบียนการค้า
– สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีชื่อผู้กู้/ผู้กู้ร่วม
– สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 12 เดือน (ทั้งในนามบุคคล และกิจการ)
– สำเนา ภ.พ. 30 (ถ้ามี) หรือ ภงด. 50/51 ย้อนหลัง 5 เดือน (ถ้ามี)

ปกติแล้วหลังจากที่ยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์พร้อมส่งเอกสารเรียบร้อย ธนาคารจะทำการนัดหมายเพื่อส่งคนมาประเมินราคาหลักประกัน และใช้เวลาพิจารณาอนุมัติประมาณ 2-4 สัปดาห์

เอกสารด้านหลักประกัน

จะเป็นเอกสารที่ยืนยันความเป็นเจ้าของหลักประกันที่จะนำมารีไฟแนนซ์ ซึ่งมีทั้งเอกสารจากธนาคารเดิม และเอกสารจากกรมที่ดิน ประกอบด้วย
– สำเนาเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์หลักประกัน (เช่น โฉนดที่ดิน หรือ หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด อช.2)
– สำเนาหนังสือสัญญาขายที่ดิน ทด.13 หรือ สัญญาให้ที่ดิน ทด.14 หรือ สัญญาซื้อขายห้องชุด
– สำเนาหนังสือสัญญาจำนองที่ดิน หรือ สำเนาสัญญาจำนองห้องชุด
– สำเนาสัญญาเงินกู้กับสถาบันการเงินเดิม
– สำเนาใบเสร็จผ่อนชำระค่างวดบ้าน หรือ ถ้าผ่อนชำระแบบตัดค่างวดอัตโนมัติ ให้ใช้ รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 12 เดือน

ประกันอัคคีภัย ซึ่งประกันอัคคีภัย ถึงเราไม่ได้รีไฟแนนซ์ ก็ต้องทำทุก 1-3 ปี ตามกฎหมาย เพื่อคุ้มครองตัวบ้านหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด

คุณสมบัติของผู้ต้องการรีไฟแนนซ์

– เป็นผู้บรรลุนิติภาวะ มีรายได้ที่แน่นอน
– มีการประวัติการผ่อนชำระดี ไม่มีประวัติเสียหายทางการเงิน
– อายุของผู้กู้ หรือ ผู้กู้ร่วม เมื่อรวมกับระยะเวลาในการผ่อนชำระหนี้ ต้องไม่เกิน 65 ปี

เตรียมค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์บ้าน

การรีไฟแนนซ์บ้านนั้นสามารถช่วยให้ประหยัดดอกเบี้ยลดลง แต่ขอรีไฟแนนซ์บ้านนั้น ยังต้องมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินเรื่องอยู่ดี ซึ่งค่าใช้จ่ายทั่วไป มีดังต่อไปนี้

1. ค่าประเมินราคาหลักประกัน ตามแต่ละธนาคารกำหนด ทั้งนี้ ถ้าหากขอปรับอัตราดอกเบี้ยหรือรีไฟแนนซ์กับธนาคารเดิมก็อาจไม่ต้องเสียเงินในส่วนนี้
2. ค่าธรรมเนียมในการปล่อยกู้ใหม่ แต่ถ้าหากทำเรื่องกับธนาคารเดิมอาจไม่ต้องเสีย
3. ค่าอากรแสตมป์
4. ค่าจดจำนองที่ดิน ค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะจ่ายให้กับกรมที่ดินไม่ว่าจะยื่นเรื่องกับธนาคารใดก็ตาม แต่หากทำเรื่องกับธนาคารเดิมก็ไม่จำเป็นต้องจดจำนองใหม่ จึงไม่มีค่าใช้จ่าย
5. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ แต่ละธนาคารอาจมีเงื่อนไขอื่นๆ ที่เพิ่มเติมเข้ามาเป็นค่าใช้จ่ายได้ เช่น ค่าไถ่ถอนจำนอง ค่าทำประกันอัคคีภัย ค่าปรับกรณีรีไฟแนนซ์ก่อนกำหนด เป็นต้น

ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ

ประเภทของสินเชื่อ

คู่มือยอดนิยมสำหรับสินเชื่อ