Connect with us

ผ่อนบ้านต่อไม่ไหวทำไงดี

เมื่อเกิดสถานการณ์ไม่คาดคิดจนทำให้ผ่อนบ้านไม่ไหว แต่อย่าปล่อยให้เกิดการค้างชำระจนถูกยึดทรัพย์สิน

การประนอมหนี้คืออะไร

การประนอมหนี้คือการเจรจาพูดคุยข้อตกลงเรื่องหนี้สินกับเจ้าหนี้ เช่นลดหย่อน ผ่อนผันหรือปรับเปรียบเปลี่ยนข้อตกลง เพื่อช่วยชะลอหรือหยุดการดำเนินการจากเจ้าหนี้อันเนื่องมาจากการผิดนัดชำระหนี้ เช่น ฟ้องร้องและยึดทรัพย์สิน และช่วยลดภาระในการชำระหนี้โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ลูกหนี้กำลังตกอยู่ในสภาวะขาดสภาพคล่องทางการเงิน

จุดเด่น

  • เพื่อขอลดหย่อนดอกเบี้ยหรือขยายระยะเวลาให้นานขึ้น
  • หาคนช่วยผ่อน จะได้แบ่งเบาภาระ

ผ่อนบ้านไม่ไหว มีวิธีอย่างไรบ้าง

ชีวิตของคนเรานั้นอะไรก็ไม่แน่นอน และถ้าวันไหนเกิดเหตุที่ทำให้เรา ผ่อนบ้านไม่ไหวขึ้นมา เราจะเอาเงินที่แต่เคยเอาไปผ่อนบ้านจะเอาเงินจากไหนมาผ่อนต่อละ หรือหลาย ๆ ท่านอาจจะต้องประสบกับปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะโรคภัย ครอบครัว คนรัก ค่าใช้จ่ายลูกต่าง ๆ นานา ที่จะถาโถมเข้ามาให้เราต้องปวดหัวรวมทั้งถ้าเศรษฐกิจไม่ค่อยดี บริษัทขอลดเงินเดือน ปรับลดพนักงานออก แล้วจะทำอย่างไรกันดี ดังนั้น เรามีวิธีที่ช่วยคุณได้ดังนี้

1. ขอขยายเวลาชำระหนี้
2. รีไฟแนนซ์บ้าน
3. ขายคืนให้ธนาคารที่เรากู้
4. พูดคุยเพื่อเจรจา

ขอขยายเวลาชำระหนี้

เป็นวิธีจะทำให้ยอดค่าผ่อนต่อเดือนลดลงและขอขยายเวลากู้ได้จนอายุไม่เกิน 70 ปีเท่านั้น เหมาะกับผู้กู้ยังคงมีรายได้เป็นประจำทุกเดือน แต่มีเหตุให้รายได้ต่อเดือนลดลงหรือมีรายได้เท่าเดิมแต่รายจ่ายเพิ่มขึ้น และเหมาะกับผู้กู้ที่มีคุณสมบัติดังนี้

– อายุน้อยหรืออีกหลายปีกว่าจะอายุถึง 70 ปี
– สัญญากู้ปัจจุบันมีระยะเวลากู้ไม่ถึง 30 ปี
– มีรายได้ต่อเดือนเป็นประจำ เช่น รายได้จากการทำงานประจำหรือได้รับเงินปันผลทุกเดือน

“ยิ่งเริ่มการประนอมหนี้ได้เร็วเท่าไรก็ยิ่งเป็นผลดี เนื่องจากประวัติการผ่อนชำระจะยังไม่เสียหาย การเจรจากับธนาคารก็จะง่ายขึ้น และโอกาสที่จะได้รับประโยชน์ก็จะมากขึ้นด้วย”

รีไฟแนนซ์บ้าน

เป็นอีกวิธีที่จะช่วยลดหย่อนดอกเบี้ย การเปลี่ยนสถาบันการเงินผ่อนเพื่อลดอัตราดอกเบี้ยการผ่อนให้น้อยลง โดยทั่วไปจะทำกันทุก ๆ 3 ปี เพราะโดยปกติแล้วธนาคารจะมีโปรโมชั่นดอกเบี้ยต่ำเฉพาะ 3 ปีแรก ดอกเบี้ยถูก เราจ่ายเงินไปมากเท่าไหร่ มันก็จะหักจากเงินต้นได้มากยิ่งขึ้นโดยตัวอย่าง เช่น วงเงินกู้บ้านครั้งแรก 3 ล้านบาท เลือกผ่อน 30 ปี จะผ่อนเดือนละ 15,000 บาท เมื่อรีไฟแนนซ์หลังจากผ่อนบ้านมาแล้ว 3-4 ปีด้วยเงินต้นคงเหลือที่ 2.8 ล้านบาท เมื่อขยายเวลาผ่อนบ้านออกไปได้ ค่าผ่อนก็จะลดลงเหลือ 35 ปี 9,000 บาทเป็นต้นนั้นเอง

เมื่อรู้ว่าตัวเองผ่อนจ่ายไม่ไหว ต้องรีบเข้าไปคุยกับทางเจ้าหน้าที่ธนาคาร เพื่อให้ช่วยลดหย่อนหนี้สินและเปิดโอกาสให้มากขึ้น

ขายคืนให้ธนาคารที่เรากู้

หากผ่อนบ้านไม่ไหว ให้เรายื่นข้อเสนอคือวิธีการขายทรัพย์คืนธนาคาร ในราคาที่ผ่อนไปแล้ว หรือก็คือการยกบ้านให้กับธนาคารไปนั่นเอง คุณสามารถขายให้ใครก็ได้ในราคาที่คุณต้องการ และผ่อนชำระเงินคงเหลือที่ค้างชำระกับธนาคารต่อให้ครบซึ่งในกรณีที่เราผ่อนจ่ายค่างวดธนาคารอย่างต่อเนื่องนั้น เราก็ไม่ต้องกลัวว่าวิธีการขายคืนธนาคารนี้จะทำให้เราเสียเครดิตแต่อย่างใดค่ะ แต่ก็ใช่ว่าธนาคารจะรับคืนทุกกรณีนะคะ เพราะธนาคารจะต้องพิจารณาถึงเหตุผลและสภาวะเศรษฐกิจไปพร้อมๆกัน จึงจะตัดสินใจรับทรัพย์คืนมา ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะพิจารณาเป็นกรณีไป

พูดคุยเพื่อเจรจา

หากเกิดกรณีฉุกเฉินผ่อนต่อไม่ได้จริงๆ วิธีที่ทำได้คือการพูดคุยเจรจาเพื่อขอชำระยอดที่น้อยลงในระยะเวลาที่ตกลงกันก่อนที่จะกลับมาผ่อนตามยอดเดิม หรือ วิธีการอื่นๆตามแต่ละกรณีไปค่ะ จำไว้ว่า อย่าหยุดจ่ายค่าผ่อน หรือเงียบหายไปเลย เพราะธนาคารไม่รู้ว่าเรากำลังมีปัญหาการเงินเมื่อเราเงียบหายไม่จ่ายค่าผ่อนตามกำหนด ธนาคารก็จะฟ้องร้องเพื่อยึดทรัพย์ขายทอดตลาด และจะทำให้เราไม่สามารถทำเรื่องกู้อื่น ๆ ต่อไปได้ในอนาคตหรือทำให้เราติดบูโรนั้นเองค่ะ

ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ

ประเภทของสินเชื่อ

คู่มือยอดนิยมสำหรับสินเชื่อ