Connect with us

ออมเงินกับธนาคารหรือทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ดี

เมื่อต้องการออมเงิน จะเลือกวางแผนการออมเงินอย่างไรให้ได้รับผลประโยชน์ดีที่สุด

ออมเงินวิธีไหนดี

เมื่อคุณมีรายได้เข้ามา ก็ย่อมที่จะอยากแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งเป็นเงินออมสำหรับอนาคต ไม่ว่าจะเป็นออมไว้สำหรับการสร้างครอบครัว เช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือเป็นค่าใช้จ่ายยามฉุกเฉิน ไม่ว่าคุณต้องการจะออมเงินเพื่อจุดประสงค์ใด ทางเลือกในการออมเงินที่ดีจะช่วยให้คุณมีเงินเก็บตามเป้าตามที่คุณต้องการ ซึ่ง tadoo.co ได้แนะนำรูปแบบการออมเงินที่เหมาะสมสำหรับคุณ 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ การออมเงินในรูปแบบบัญชีเงินฝากออมทรัพย์/เงินฝากประจำ และ การทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ซึ่งจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเราได้แบ่งรายละเอียดออกเป็น 3 ข้อด้วยกันดังนี้

จุดเด่น

  • เปรียบเทียบผลตอบแทนระหว่างออมเงินกับธนาคารและประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์
  • เปรียบเทียบภาษีระหว่างออมเงินกับธนาคารและประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์
  • เปรียบเทียบความคุ้มครองชีวิตระหว่างออมเงินกับธนาคารและประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์

การเปิดบัญชีเงินฝาก

สำหรับวิธีการออมเงินโดยฝากไว้กับธนาคารนั้นเป็นการออมเงินในรูปแบบของการแบ่งเงินส่วนหนึ่งไปฝากไว้กับธนาคาร โดยมีประเภทบัญชีเงินฝากให้เลือกด้วยกัน 2 ประเภท คือ บัญชีเงินฝากแบบออมทรัพย์และบัญชีเงินฝากประจำ สำหรับบัญชีเงินฝากแบบออมทรัพย์จะเป็นบัญชีเงินฝากแบบพื้นฐานที่ทุกธนาคารจะเปิดให้กับบุคคลทั่วไป ซึ่งมีดอกเบี้ยเงินฝากเฉลี่ย 0.3-1 % ต่อปีบัญชีเงินฝากประเภทนี้คุณสามารถถอนเงินได้ทุกเวลา แต่ถ้าเป็นออมเงินไม่แนะนำให้ถอนเงินออกมาถ้าไม่จำเป็น สำหรับบัญชีเงินฝากประจำจะกำหนดระยะเวลาในการฝากที่แน่นอน เช่น 6 เดือน 1 ปี 3 ปี เป็นต้น และดึงดูดผู้ฝากด้วยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงกว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ซึ่งบัญชีเงินฝากประจำนี้มีจุดประสงค์สำหรับการออมเงินในระยะยาวและต้องการเก็บเงินเป็นประจำอย่างมีวินัย เหมาะสำหรับการเก็บเงินสร้างบ้าน หรือเป็นการเก็บเงินสำหรับเตรียมเกษียณ หรือต้องการผลตอบแทนจากดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ดอกเบี้ยเงินฝากของบัญชีเงินฝากประจำจะอยู่ที่ประมาณ 1.3 – 1.5 % ต่อปี การออมเงินแบบเปิดบัญชีเงินฝากจะมีความเสี่ยงน้อย แต่ก็จะให้ผลตอบแทนที่น้อยด้วย

ประกันชีวิตประเภทสะสมทรัพย์ (ประกันเงินออม)

ประกันสะสมทรัพย์คือประเภทของประกันชีวิตที่คล้ายกับการออมเงินในบัญชีเงินฝาก แต่คุณจะได้รับความคุ้มครองชีวิตจากกรมธรรม์ที่คุณทำไว้ด้วย เปรียบเสมือนของแถมที่มาพร้อมกับการออมเงิน ข้อดีของประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ก็คือ คุณสามารถออมเงินได้จริง และเงินออมที่คุณฝากในรูปแบบการจ่ายเบี้ยประจำก็จะถูกเก็บเอาไว้ โดยที่คุณไม่สามารถถอนเงินออกมาได้จนกว่าจะครบสัญญาประกันชีวิต ซึ่งนั่นหมายความว่า ถ้าสัญญามีระยะเวลายาวนานเท่าไหร่ คุณก็จะต้องออมเงินไปเรื่อยๆจนกว่าจะครบสัญญานั่นเอง เช่น ถ้าสัญญาประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ที่คุณทำไว้มีระยะเวลา 20 ปี คุณก็ต้องจ่ายเบี้ยประกัน (ออมเงิน) ทุกงวดจนกว่าจะครบสัญญาโดยที่ไม่สามารถถอนเงินออกมาใช้ได้เลย แต่ถ้าคุณมีความจำเป็นจะต้องใช้เงินก่อนครบสัญญา ก็สามารถทำเรื่องขอเวนคืนมูลค่ากรมธรรม์ได้ แต่จะไม่ได้คืนเท่ากับจำนวนเงินที่ฝากไปทั้งหมด (คุณสามารถศึกษามูลค่าเวนคืนกรมธรรม์ได้จากสัญญาแนบท้ายในกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ของคุณได้ ซึ่งจะระบุจำนวนปีและจำนวนเงินที่สามารถเวนคืนได้) สำหรับความคุ้มครองชีวิตนั้นจะได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ที่คุณทำไว้

“การฝากเงินจะช่วยให้คุณมีวินัยทางการเงินมากขึ้น”

ผลตอบแทนและสภาพคล่อง

เงินฝากธนาคาร เมื่อคุณออมเงินกับธนาคารคุณจะได้รับผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยเงินฝากต่อปี และคุณสามารถฝากเงินได้ตลอด สมมุติว่าคุณฝากเงินเข้าธนาคารเดือนละ 1,000 บาท เมื่อครบปีคุณจะได้เงินฝาก 12,000 บาท รวมดอกเบี้ย 1.5% เท่ากับ 180 บาท คุณก็จะมีเงินทั้งหมด 12,180 บาท และถ้าคุณฝากเงินเป็นจำนวนเท่ากันไปเรื่อยๆ ก็จะทำให้มีเงินมากขึ้นเรื่อยในลักษณะดอกเบี้ยทบต้น การออมเงินกับธนาคารจะมีสภาพคล่องมากกว่า เพราะคุณสามารถนำเงินออกมาใช้จ่ายได้ตามต้องการ แต่ไม่แนะนำให้ใช้เงินออมถ้าไม่จำเป็น ดังนั้นออมเงินกับธนาคารคุณจะต้องมีวินัยมากเพราะในบางเวลาก็อาจมีเหตุจำเป็นที่คุณจะถอนเงินก่อนกำหนด

ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ สำหรับผลตอบแทนของประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เรียกว่า เงินจ่ายคืนตามกรมธรรม์ ซึ่งจะได้ผลตอบแทนมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับแบบประกันที่คุณเลือก แต่ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์จะมีสภาพคล่องที่น้อยกว่าการออมเงินในธนาคารเพราะไม่สามารถถอนได้จนกว่าจะครบกำหนดตามสัญญาประกันชีวิต

ทั้งการออมเงินกับธนาคารและซื้อประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์มีรายละเอียดที่แตกต่างกัน คุณต้องศึกษารายละเอียดให้ดี

ภาษี

เงินออมจากการทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์จะไม่เสียต้องภาษีใดๆ นั่นหมายถึงคุณจะได้รับเงินเต็มจำนวนเมื่อครบกำหนดตามสัญญาประกันชีวิตและข้อดีของประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ก็คือ ผู้ที่มีสมัครกรมธรรม์ที่มีสัญญาอายุมากกว่า 10 ปีขึ้นไป สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท

การออมเงินกับธนาคารคุณจะต้องเสียภาษี 15% ของดอกเบี้ยที่คุณได้มา นั่นหมายถึงเงินที่คุณจะได้รับกลับมาจะต้องเสียภาษีอีกด้วย สมมุติว่าคุณฝากเงินเข้าธนาคารเดือนละ 1000 บาท เมื่อครบปีคุณจะได้เงินฝาก 12000 บาท รวมดอกเบี้ย 1.5% เท่ากับ 180 บาท คุณจะต้องเสียภาษี 15% จากดอกเบี้ย 180 บาท ซึ่งเท่ากับว่าจะต้องเสียภาษี 27 บาท ละการฝากเงินกับธนาคารไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้

ความคุ้มครองชีวิต

การออมเงินกับธนาคารจะไม่ได้รับการคุ้มครองชีวิต เพราะเป็นเพียงแค่การฝากเงินกับธนาคารเท่านั้น แต่ถ้าคุณจ่ายประกันสังคมเป็นประจำอยู่แล้ว เมื่ออายุครบ 55 ปี คุณสามารถรับเงินบำเหน็จหรือบำนาญได้ ซึ่งในระหว่างที่คุณจ่ายเงินประกันสังคมคุณก็จะได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขของประกันสังคม

เมื่อคุณออมเงินโดยการซื้อประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ คุณก็จะได้รับความคุ้มครองชีวิตตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ที่คุณเลือก สิ่งที่ต้องคำนึงก่อนซื้อประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ คือความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกันตามระยะเวลาของสัญญากรมธรรม์ เช่น ถ้าในอีก 20 ปีคุณต้องการจะมีเงินเก็บเอาเป็นก้อน คุณก็ควรทำประกันเงินออม 20 ปี โดยคุณจะต้องรู้ว่าคุณต้องการมีเงินจำนวนเท่าไหร่ หลังจากนั้นบริษัทประกันก็จะคำนวณค่าเบี้ยประกันรายเดือนหรือรายปีตามเงื่อนไขของแบบประกันชีวิตที่คุณเลือก

ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ

ประเภทของสินเชื่อ

คู่มือยอดนิยมสำหรับการเงิน