Connect with us

วิธีคำนวณดอกเบี้ยบ้านต่อเดือน

การคำนวณดอกเบี้ยบ้านนั้น จะช่วยให้คุณได้คำนวณค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน

ภาระหนี้ต่อเดือนคืออะไร

ภาระหนี้สินต่อเดือน หมายถึง หนี้สินหรือค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่กำลังอยู่ในระหว่างการผ่อนชำระทุกเดือน เช่น การผ่อนรถ ผ่อนสินค้าในบัตรเครดิต ผ่อนสินเชื่อส่วนบุคคล และการผ่อนชำระหนี้สินอื่น ๆ ที่ส่งผลให้ความสามารถในการผ่อนบ้านลดลง

จุดเด่น

  • เพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน
  • การโปะหนี้บ้านจะช่วยให้ระยะการผ่อนน้อยลง

วิธีการคำนวณดอกเบี้ยคืออะไร

โดยปกติ ทางสถาบันการเงินจะข้อกำหนดให้ผู้กู้ชำระเงินต้นพร้อมอัตราดอกเบี้ย โดยจะคิดดอกเบี้ยเงินกู้แบบลดต้นลดดอก และคิดดอกเบี้ยเงินกู้ทุกวัน หมายความว่า จำนวนเงินที่ต้องจ่ายในแต่ละงวด ประกอบไปด้วยดอกเบี้ยตามอัตราที่ธนาคารกำหนดไว้ตั้งแต่ทำสัญญากันตอนแรก รวมกับจำนวนเงินต้นที่คงเหลือ ซึ่งธนาคารจะนำเงินต้นที่เหลืออยู่มาเป็นฐานเพื่อคำนวณดอกเบี้ย ดังนั้น ยิ่งเงินต้นเหลือมากเท่าไหร่ ดอกเบี้ยในงวดถัดไปก็จะยิ่งสูงขึ้นมากเท่านั้น

วิธีการคำนวณดอกเบี้ย = (เงินเดือนต้นคงที่*อัตราดอกเบี้ย*จำนวนวันของเดือนนั้น) ÷ 365

ตัวอย่างในการคำนวณดอกเบี้ย

สมมติให้เงินต้นที่ต้องผ่อนต่องวด 20,000 บาท เงินต้น 2,000,000 บาท

งวดที่ 1
ดอกเบี้ยต่อเดือน = 2,000,000 x 5.0% x 30 ÷ 365 = 8,219.17 บาท
ยอดเงินเมื่อจบงวด = 2,000,000 + 8,219.17= 2,008,219.17 บาท
หักเงินค่างวดที่ต้องจ่ายรายเดือนออก 20,000 บาท
เมื่อสิ้นงวดแรก จะเหลือเงินต้น 2,008,219.17 – 20,000 = 1,988,219.17 บาท

งวดที่ 2
ดอกเบี้ยต่อเดือน =1,988,219.17 x 5.0% x 30 ÷ 365 = 8,170.76 บาท
ยอดเงินเมื่อจบงวด = 1,988,219.17 + 8,170.76= 1,996,389.93 บาท
หักเงินค่างวดที่ต้องจ่ายรายเดือนออก 20,000 บาท
เมื่อสิ้นงวดสอง จะเหลือเงินต้น 1,996,389.93 – 20,000 = 1,976,389.93 บาท

จากตัวอย่างข้างบน จะเห็นได้ว่า ดอกเบี้ยในแต่ละงวดจะลดลงไปเรื่อยๆ เพราะว่าฐานเงินเดือนที่นำมาคำนวณลดลง ดังนั้น หากใครที่มีกำลังพอ ก็สามารถกำหนดค่างวดที่จะชำระให้สูงกว่าขั้นต่ำได้ ซึ่งจะยิ่งทำให้ภาระการผ่อนชำระหมดไวขึ้น ทั้งนี้ การตัดสินใจจะตั้งค่างวดรายเดือนสูงหรือต่ำ ควรพิจารณาจากฐานรายได้เป็นหลัก ซึ่งผู้กู้ควรมีรายได้อย่างน้อย 2 – 2.5 เท่าของค่างวดต่อเดือน นอกจากนี้ หากใครสามารถเก็บออมเงินจำนวนหนึ่งได้มากพอ หรือช่วงสิ้นปีได้รับโบนัส จะนำมารวมแล้วโปะสมทบเงินต้นก็ได้เช่นกัน วิธีนี้จะช่วยลดยอดเงินต้นลง ทำให้ภาระการผ่อนสั้นลงไปด้วย

“การวางเงินดาวน์ให้เยอะก็จะช่วยให้การผ่อนบ้านต่อเดือนในอัตราดอกเบี้ยที่น้อย”

เทคนิคผ่อนบ้านอย่างไรให้จ่ายดอกเบี้ยน้อย

1. ชำระค่างวดบ้าน – เกินจากยอดที่กำหนด ปกติทางธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อบ้าน จะกำหนดค่างวดที่ต้องจ่ายในทุกเดือน โดยจะเป็นยอดเงินต้นรวมกับอัตราดอกเบี้ย ซึ่งคนส่วนใหญ่จะนิยมชำระค่างวดบ้านในแต่ละเดือนตามยอดที่ทางธนาคารกำหนด แต่หากต้องการผ่อนบ้านให้หมดเร็วกว่ากำหนด แนะนำลองชำระค่างวดบ้านเกิดจากยอดที่ทางธนาคารกำหนดไว้ เพราะยอดจ่ายเกินจะถูกนำมาหักกับเงินต้น ช่วยให้ผ่อนบ้านได้เร็วยิ่งขึ้น

2.มีเงินก้อนรีบโปะ – เมื่อมีเงินก้อนหรืออาจจะได้โบนัสมาจากที่ทำงาน สถานะทางการเงินที่คล่องตัวมากยิ่งขึ้น และต้องการให้สินเชื่อบ้านหมดไว นำเงินก้อนมา จ่ายโปะสินเชื่อบ้าน ก็สามารถช่วยลดเงินต้นและดอกเบี้ยได้เยอะเลยทีเดียว

เมื่อผ่อนบ้านครบ 3 ปี การรีไฟแนนซ์บ้านจะทำให้ดอกเบี้ยถูกลง

รีไฟแนนซ์บ้านจะช่วยให้ดอกเบี้ยบ้านลดลง

เมื่อขอสินเชื่อบ้านครบกำหนดระยะเวลา 3 ปี หรือตามเงื่อนไขอื่น ๆ ที่ทางธนาคารกำหนด ผู้ขอสินเชื่อบ้านสามารถยื่นขอรีไฟแนนซ์บ้าน เพื่อปรับลดดอกเบี้ยบ้านให้ถูกลงได้ และช่วยสร้างสภาพคล่องทางเงินได้ยิ่งขึ้น

ข้อมูลแนะนำจาก Tadoo

ภาระการผ่อนชำระเงินกู้จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคารด้วย แนะนำให้ลองเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย สินเชื่อบ้าน ของแต่ละธนาคารดู ในปัจจุบัน หลาย ๆ ธนาคารก็มีโปรโมชันอัตราดอกเบี้ยอยู่ ทางที่ดี ควรศึกษาเงื่อนไขและข้อตกลงของสินเชื่อนั้น ๆ ให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน

ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ

ประเภทของสินเชื่อ

คู่มือยอดนิยมสำหรับสินเชื่อ