Connect with us

เคล็ดลับการรีไฟแนนซ์บ้าน

รีไฟแนนซ์บ้านช่วยลดภาระอัตราดอกเบี้ยได้ ให้ Tadoo เป็นที่ปรึกษาเรื่องรีไฟแนนซ์บ้าน

เทคนิคการรีไฟแนนซ์บ้าน

หากใครที่กำลังผ่อนบ้านอยู่ แล้วรู้สึกว่าเริ่มผ่อนไม่ไหว การรีไฟแนนซ์ก็เป็นตัวช่วยอีกรูปแบบหนึ่ง เพื่อช่วยให้คุณลดค่าใช้จ่ายลง และช่วยให้คุณผ่อนดอกเบี้ยที่ถูกลงกว่าเดิม โดยปกติแล้ว คนส่วนใหญ่จะรีไฟแนนซ์ตอนซื้อบ้านครบ 3 ปี เพราะจะได้ลดอัตราดอกเบี้ย และยังช่วยให้ระยะเวลาในการผ่อนสั้นกว่าเดิม ดังนั้น เทคนิคการรีไฟแนนซ์บ้านให้ประหยัดมีดังต่อไปนี้

1. ไม่ควรรีไฟแนนซ์บ้าน ก่อนครบ 3 ปี
2. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับดอกเบี้ย
3. รีไฟแนนซ์กับธนาคารเดิม
4. เตรียมเอกสารให้พร้อม

จุดเด่น

  • เพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้คุณ
  • ภาระดอกเบี้ยลดลง
  • ระยะเวลาในการผ่อนน้อยลง

ไม่ควรรีไฟแนนซ์บ้าน ก่อนครบ 3 ปี

ถ้าหากในกรณีไฟแนนซ์จากธนาคารเดิม ก่อนครบ 3 ปี จะมีค่าปรับ 1-3% ของวงเงิน ซึ่งตรงนี้เป็นจุดที่หลายๆคนมองข้ามไป เพราะเห็นว่ารีไฟแนนซ์ บ้านไปที่ไหนดอกเบี้ยถูกกว่าจึงยอมจ่ายค่าปรับแต่ทั้งนี้ ขอแนะนำให้คำนวณดูดีๆก่อนว่าการยอมจ่ายค่าปรับนั้นคุ้มกว่าดอกเบี้ยที่จะได้ลดลงหรือไม่ หรือควรจะรอให้ครบ 3 ปีก่อนค่อยรีไฟแนนซ์ดี (บางธนาคารอาจกำหนดถึง 5 ปีให้ลองดูตามสัญญากู้ของตัวเอง)

ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับดอกเบี้ย

ก่อนอื่นที่เราจะขอยื่นรีไฟแนนซ์ แน่นอนว่าเราควรรู้รายละเอียดข้อมูลของแต่ละธนาคาร การเปรียบเทียบสินเชื่อบ้านก่อน-หลังหมด อัตราดอกเบี้ยในช่วง 1-3 ปีแรก กับอัตราใหม่ที่จะขอทำรีไฟแนนซ์บ้าน ของแต่ละธนาคาร แล้วนำมาพิจารณาประกอบการตัดสินใจ

เปรียบเทียบข้อมูลรายละเอียด โปรโมชั่น อัตราดอกเบี้ย เงื่อนไข ข้อกำหนด จะได้นำมาประกอบการตัดสินใจให้เหมาะกับตัวคุณ

รีไฟแนนซ์กับธนาคารเดิม

การรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารเดิมหรือสถาบันการเงินแห่งเดิมจะดีมาก ๆ หากคุณไม่เคยผิดนัดชำระ เรียกสั้นง่ายๆว่า รีเทนชั่น โดยมีกฎว่าจะต้องมีการผ่อนบ้านเป็นระยะเวลา 3 ปีขึ้นไปหรือตามที่ธนาคารเดิมได้กำหนดเอาไว้ (แต่ส่วนใหญ่คือ 3 ปี) กระนั้นเราก็สามารถนำรายละเอียดของธนาคารแห่งใหม่มาเปรียบเทียบกันได้ว่าเลือกที่ไหนจึงคุ้มค่ากับตนเองมากที่สุด

การรีไฟแนนซ์บ้านสามารถทำได้กับที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่ตนเองกู้ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว, ทาวน์เฮาส์, ทาวน์โฮม, คอนโด, บ้านแฝด ฯลฯ

เอกสารที่ต้องใช้รีไฟแนนซ์บ้าน

การเตรียมเอกสารให้พร้อมเป็นสิ่งที่สำคัญจะได้ไม่เกิดข้อผิดพลาด และจะได้ไม่เสียเวลาการขอของผู้กู้ เอกสารที่ควรจะต้องเตรียมมีดังต่อไปนี้

1. เอกสารประจำตัวบุคคล
– สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
– สำเนาทะเบียนบ้าน
– สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนคู่สมรส (ถ้ามี)
– สำเนาทะเบียนบ้านคู่สมรส (ถ้ามี)

2.เอกสารทางการเงิน
– สำหรับบุคคลที่มีรายได้ประจำ (มีเงินเดือน)
– สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3-6 เดือน
– หนังสือรับรองการทำงาน
– สำเนารับรองการหักภาษี (50 ทวิ)
– สำหรับผู้ที่ทำธุรกิจส่วนตัว
– สำเนารับรองการจดทะเบียนการค้า
– สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น
– สำเนารายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน
– สำเนาแบบแสดงภาษีซื้อขาย ภ.พ.30

3. เอกสารหลักประกันการรีไฟแนนซ์บ้าน
– สำเนาโฉนดที่ดิน หนังสือกรรมสิทธิ์ หรือเอกสารที่เกี่ยวข้องที่บ่งชี้ถึงหลักประกัน
– สำเนาสัญญาการซื้อขายหรือให้ที่ดิน ทด.13 หรือ 14 หรือสัญญาซื้อขายห้องชุด
– สำเนาสัญญากู้จากธนาคารเดิม
– สำเนาสัญญาจำนองที่ดิน
– สำเนาใบเสร็จแสดงธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับบ้าน

บ้านสามารถรีไฟแนนซ์ได้ตอนไหน

1. กรณียังผ่อนชำระรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อให้มีภาระน้อยที่สุด คือการที่เรากำลังผ่อนบ้านอยู่ 1-3 ปีแรก จะเป็นช่วงโปรโมชั่น อัตราดอกเบี้ยมันจะน้อย แต่เมื่อปี 4 ดอกเบี้ยจะสูงมากกว่าเดิม การรีไฟแนนซ์บ้านหลังปีที่ 3 จะช่วยลดอัตราดอกเบี้ยให้น้อยลง

2. กรณียังผ่อนชำระรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อนำส่วนต่างออกมาใช้จ่าย เป็นการขอกู้เพิ่มวงเงินเดิม อาจจะทำให้ภาระในการผ่อนในส่วนของบ้านเพิ่มขึ้น นำไปหมุนเวียนในกิจการของคุณ หรืออาจจะไปโปะหนี้อย่างอื่น

3. กรณีบ้านไม่มีภาระแล้ว รีไฟแนนซ์วิธีนี้เป็นวิธีจะได้ต้นทุนถูกที่สุด ประมาณ 4- 5% แตกต่างจากกรณีเรามีภาระผ่อนชำระอยู่แล้วขอกู้เพิ่ม ส่วนกู้เพิ่มมักถูกคิดอัตราดอกเบี้ยอุปโภคบริโภค ซึ่งอยู่ประมาณ 12-15%

ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ

ประเภทของสินเชื่อ

คู่มือยอดนิยมสำหรับสินเชื่อ