Connect with us

ประกันภัยบ้านสำคัญอย่างไร

ประกันบ้านและทรัพย์สินความจำเป็นที่คนมีบ้านอาจมองข้าม

ความสำคัญของประกันภัยบ้าน

รู้หรือไม่หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาบ้านสักหลัง การกู้สินเชื่อบ้านคงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมสำหรับคนส่วนใหญ่ และการทำประกันภัยบ้านถือเป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่ต้องทำควบคู่ไปกับการกู้สินเชื่อบ้าน เพราะนอกจากกฎหมายกำหนดให้ต้องทำแล้ว ยังเป็นการสร้างความคุ้มครองให้แก่เจ้าของบ้านเมื่อต้องประสบกับภัยร้ายและเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงทั้งจากอุบัติเหตุต่อตัวบุคคลและต่อทรัพย์สินอีกด้วย

ประกันภัยบ้านเป็นประกันภัยสำหรับเจ้าของที่อยู่อาศัยที่ให้ความคุ้มครองที่อยู่อาศัย เช่น บ้าน คอนโด อพาร์ทเม้นท์ ที่จะช่วยชดเชยค่าซ่อมแซมบ้านเมื่อบ้านและทรัพย์สินได้รับความเสียหายจากภัยร้ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภัยจากการโจรกรรม การปล้น ไฟไหม้ หรือ น้ำท่วมบ้าน บริษัทเข้าประเมินความเสียหายและชดเชย/บรรเทาความสูญเสียตามกรมธรรม์ที่กำหนด ซึ่งมีลักษณะไม่ต่างจากการทำประกันภัยอื่นๆ

สิ่งสำคัญของประกันภัยบ้านคือยังมีความคุ้มครองเสริมที่สามารถเลือกซื้อจากกรมธรรม์ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นประกันทรัพย์สินภายในบ้าน ประกันอัญมณีและของมีค่า ประกันบุคคลที่สาม และ ประกันคุ้มครองค่าที่พักอาศัยชั่วคราว หรือยังขยายความคุ้มครองสำหรับบุคคลที่มีบ้านที่ติดภาระหนี้สินผูกพันกับธนาคาร หากเจ้าของบ้านเสียชีวิต บริษัทจะเป็นผู้ชำระหนี้สินแทนผู้ทำประกัน โดยผู้ทำประกันจะได้รับเงินชดเชยความเสียหาย ตามมูลค่าทุนประกันที่เลือกซื้อ

จุดเด่น

  • ควรเลือกทุนประกันอย่างต่ำที่ 70% ของมูลค่าบ้านหรือทรัพย์สิน
  • ประกันภัยเสริมสามารถเลือกซื้อเพิ่มได้จากความคุ้มครองหลัก
  • ประกันอัคคีภัยบ้านเป็นประกันที่กฎหมายบังคับเมื่อขอสินเชื่อบ้าน

ข้อควรรู้ก่อนการซื้อประกันภัยบ้าน

1. การเลือกทุนประกันภัยบ้านและทรัพย์สินนั้นควรเลือกอย่างต่ำ 70% ของมูลค่าสินทรัพย์ เพื่อให้ครอบคลุมค่าเสียหายส่วนใหญ่ได้สูงสุด

2. ยิ่งทำประกันระยะยาวจะทำให้เบี้ยประกันต่อปีจะถูกลงตามระยะเวลาเอาประกัน

3. เมื่อได้รับเงินชดเชยจากความสูญเสียแรกแล้ว หากเกิดเหตุในระยะเวลาเอาประกันอีกครั้ง จะได้รับเงินชดเชยจากการประเมินความสูญเสียในจำนวนเงินเอาประกันที่เหลืออยู่

4. หากทำประกันมากกว่าหนึ่งประกัน เมื่อเกิดความสูญเสีย และขอเคลมค่าสินไหมทดแทน ประกันแต่ละบริษัท บริษัทประกันก็จะหารความรับผิด (ผู้เอาประกันจะไม่ได้เงินประกันเกินกว่าที่ประเมินความเสียหาย)

5. นอกจากประกันภัยบ้านทั้ง 3 ประเภทแล้ว ยังมีประกันสำหรับการมีบ้านอีกประเภท นั่นคือ ประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองหนี้สินบ้าน/ประกันคุ้มครองหลักทรัพย์ TMRA เพื่อชำระหนี้แทนหากเจ้าของบ้านเสียชีวิต

ผู้ซื้อบ้านควรทำประกันภัยบ้านแบบไหน

อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเมื่อต้องการยื่นขอกู้สินเชื่อกับธนาคาร จำเป็นต้องทำประกันภัยบ้านควบคู่กันไป โดยผู้ทำประกันจะได้รับความคุ้มครองต่อภาระหนี้สินที่ใช้ซื้อบ้านในกรณีที่ผู้ชำระหนี้เสียชีวิตหรือทุพพลภาพที่ทำให้ไม่สามารถประกอบอาชีพเพื่อผ่อนชำระหนี้สินได้ โดยบริษัทประกันจะเป็นผู้ชำระหนี้สินแทน เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นเสาหลักในการหารายได้ให้ครอบครัวเพื่อหลีกเลี่ยงการส่งต่อภาระหนี้ให้กับสมาชิกครอบครัว ในวันที่ไม่สามารถชำระหนี้สินได้แล้ว ประกันภัยที่กฎหมายบังคับให้ผู้กู้บ้านต้องทำก็คือ ประกันอัคคีภัยบ้าน และยังมีประกันรูปแบบอื่นๆ ที่ผู้กู้บ้านสามารถซื้อเพิ่มได้หากต้องการได้รับความคุ้มครองบ้านจากภัยอื่นๆ นอกเหนือจากภัยพิบัติจากไฟไหม้ คือ ประกันคุ้มครองน้ำท่วมฟ้าผ่า และ ประกันภัยคุ้มครองการโจรกรรม

“นอกจากการทำประกันอัคคีภัยบ้านแล้วควรมีอุปกรณ์ถังดับเพลิงไว้ในบ้านหรือเครื่องตรวจจับควันก็อาจจะเป็นตัวช่วยให้เราสามารถดับเพลิงในบ้านได้ทันดีกว่ารอเงินชดเชยจากบริษัทประกัน”

ประกันอัคคีภัย (กฎหมายบังคับ)

ประกันอัคคีภัยบ้าน เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุไฟไหม้ ทั้งจากอุบัติเหตุที่เกิดจากภัยธรรมชาติ เช่น เช่น ไฟป่า ฟ้าผ่า ฯลฯ และจากอุบัติเหตุที่เกิดจากมนุษย์เอง เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร การระเบิดของแก๊สหุงต้ม ฯลฯ หรือความเสียหายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ประกันประเภทนี้จะให้ความคุ้มครองในระยะสั้น เช่น 1 ปี หรือ 2 – 3 ปี ค่าเบี้ยประกันจะขึ้นอยู่กับแต่ละทุนประกันที่เลือกบริษัทที่สนใจ และลักษณะของอาคาร ซึ่งหากยื่นขอสินเชื่อเพื่อขอซื้อบ้านนั้นจะมีกฎหมายบังคับให้บ้านใหม่ทุกหลังต้องทำประกันอัคคีภัยบ้านควบคู่กันไป เป็นเหตุผลที่หลายๆ ธนาคารที่ให้สินเชื่อบ้านมักจะยื่นกรมธรรม์ให้ทำทันที ทั้งนี้ ยังเป็นการรับประกันว่า หากเกิดเหตุขึ้นกับบ้าน ธนาคารจะยังได้เงินที่ปล่อยสินเชื่อไปแล้วจากบริษัทประกัน ค่าเบี้ยประกัน ไม่แน่นอน แต่ไม่เกิน 0.1% ของความคุ้มครอง

ประกันอัคคีภัยเป็นประกันภาคบังคับที่บ้านหลังใหม่ทุกหลังต้องทำ ส่วนประกันภัยบ้านประเภทอื่นๆ ให้เลือกทำที่ตรงกับความเสี่ยงในพื้นที่นั้นๆ

ประกันคุ้มครองน้ำท่วมฟ้าผ่า (กฎหมายไม่บังคับ)

ประกันคุ้มครองน้ำท่วมฟ้าผ่าถือเป็นประกันภัยพิบัติ ที่ได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันที่ผู้ทำประกันสามารถเลือกความคุ้มครองชนิดนี้หรือไม่ก็ได้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ได้มีกฎหมายบังคับไว้ โดยประกันประเภทนี้จะคุ้มครองความเสียหาย-สูญเสียของตัวบ้านหรือทรัพย์สินที่เกิดจากเหตุธรรมชาติ ได้แก่ น้ำท่วม แผ่นดินไหว ลมพายุ หรือเหตุการณ์ภัยพิบัติอื่นๆ ที่คณะรัฐมนตรีประกาศว่าเป็นสถานการณ์ภัยพิบัติรุนแรงความคุ้มครองของประกันภัยบ้านประเภทนี้ จะเป็นแบบจำกัดความรับผิด (Sub limit) หมายความว่า ไม่สามารถซื้อความคุ้มครองได้เต็มมูลค่าของบ้าน โดยอัตราเบี้ยประกันภัยไม่เกิน 0.5% ของความคุ้มครองต่อปี ทั้งนี้ หากต้องการความคุ้มครองมากกว่า 100,000 บาท ค่าเบี้ยประกันอาจสูงกว่า 0.5% ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัท

ประกันภัยคุ้มครองการโจรกรรม (กฎหมายไม่บังคับ)

ประกันภัยคุ้มครองการโจรกรรมเป็นอีกความคุ้มครองของประกันภัยบ้านและทรัพย์สิน ซึ่งอาจต้องซื้อความคุ้มครองเสริมในบางกรมธรรม์หลัก เหมาะสำหรับบ้านที่มีสินทรัพย์มูลค่าสูง อยากได้รับความคุ้มครองสินทรัพย์สำคัญภายในบ้านจากการโจรกรรม การปล้น และบ้านอยู่ในพื้นที่ที่มีประวัติการโจรกรรม แนะนำให้ทำประกันภัยประเภทนี้เพื่อบรรเทาความสูญเสียหากเกิดการโจรกรรม ความคุ้มครองของประกันโจรกรรมจะคุ้มครอง 2 ส่วน ได้แก่ ความสูญเสียต่อทรัพย์สินที่เอาประกัน และความสูญเสียต่อตัวอาคารที่เก็บทรัพย์สินซึ่งเกิดจากการโจรกรรม โดยซื้อความคุ้มครองได้แบบปีต่อปี ซึ่งเบี้ยประกันขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของบริษัทประกันแต่ละบริษัท

ผลิตภัณฑ์ประกันบ้าน

ประเภทของประกันบ้าน

คู่มือยอดนิยมสำหรับประกันบ้าน