Connect with us

เคล็ดลับสินเชื่อบ้าน

ถ้าคุณต้องการมีบ้านสักหลังเพื่อเป็นสถานที่พักผ่อน รวมไปถึงการเริ่มต้นสร้างครอบครัวที่อบอุ่น สินเชื่อบ้านสามารถสานฝันเหล่านี้ให้เป็นจริงได้

เคล็ดลับการขอสินเชื่อบ้านให้ผ่าน

การขอสินเชื่อบ้าน ต้องเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อไม่ให้ความผิดพลาด ตรวจสอบความพร้อมของตัวเองและดูรายละเอียดของข้อมูล นโยบาย เงื่อนไขและ ข้อกำหนด จะได้นำมาเปรียบเทียบแต่ละธนาคาร เพื่อให้เหมาะกับตัวคุณที่สุด ให้ tadoo เป็นอีกตัวช่วยหนึ่ง เพื่อให้คุณได้ประกอบในการตัดสินใจ เคล็ดลับการขอสินเชื่อบ้านให้ผ่าน มีดังต่อไปนี้

1. อย่าขอสินเชื่อเกินเดือนละครั้ง ไม่ควรขอสินเชื่อบ่อยเกินกว่า 1 ครั้งต่อเดือน เพราะธนาคารอาจพิจารณาว่าผู้กู้มีปัญหาหนี้สิน หรือมีสภาวะทางการเงินไม่มั่นคง จึงสมัครเข้ามาเรื่อย ๆ ข้อมูลในการขอสมัครสินเชื่อนั้นจะถูกเก็บบันทึกไว้ ดังนั้น ไม่ควรขอสินเชื่อเยอะเกินไป หากมีความจำเป็นที่ต้องขอ ควรเว้นระยะห่างประมาณ 3 เดือน หรือ 6 เดือน

2. ยอดหนี้รวมกันไม่ควรเกินร้อยละ 30 ของเงินเดือน หนี้ปัจจุบันของคุณรวมกันทั้งหมดไม่ควรเกิน 30% ของรายได้ต่อเดือน เพื่อที่จะมีโอกาสได้รับการอนุมัติสินเชื่อที่สูงขึ้น ทางสถาบันการเงินจะตรวจสอบหนี้ทั้งหมดของคุณ เพื่อพิจารณาว่าคุณสามารถชำระหนี้ในอนาคตได้ไหม

3. ตรวจสอบประวัติการเงินของคุณ ก่อนที่จะสมัครเราควรตรวจสอบประวัติทางการเงินให้ดีก่อน โดยเช็คจากเครดิตบูโร เวลาเรายื่นขอกู้แบงก์จะตรวจสอบย้อนหลัง 3 ปีเต็ม โดยตรวจสอบควบคู่กับประวัติการผิดนัดชำระหนี้ ข้อแนะนำคือไม่ควรจ่ายช้าเกิน 30 วัน อย่าให้ทบยอดไปถึงงวดถัดไป กรณีที่เคยมีประวัติผิดนัดชำระหนี้ให้ชี้แจงสาเหตุผิดนัด ที่สำคัญต้องแนบหลักฐานว่าได้ตามไปจ่ายเรียบร้อยแล้ว

จุดเด่น

  • ตรวจเอกสารให้ครบถ้วนก่อนที่จะขอสมัคร
  • สินเชื่อบ้านนั้นเป็นรูปแบบการกู้แบบลดต้นลดดอก

คุณสมบัติของผู้กู้สินเชื่อบ้าน

คุณสมบัติของผู้กู้ส่วนใหญ่ธนาคารในแต่ละที่ มักจะกำหนดคล้าย ๆ กัน เช่น มีอายุระหว่าง 20-70 ปี มีรายได้ที่แน่นอน กรณีเป็นพนักงานประจำต้องมีรายได้ขั้นต่ำ 10,000 บาทต่อเดือน หรือกรณีเป็นเจ้าของกิจการต้องมีรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาทต่อเดือน และหากมีประวัติการเงินโอนเข้าบัญชีอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงเงินออมต่างๆ ที่สามารถแสดงถึงวินัยที่ดีในการใช้เงินด้วยแล้ว ก็จะเป็นประโยชน์ต่อการประกอบการพิจารณาสินเชื่อของธนาคารอีกด้วย ในเรื่องของการกู้ร่วมควรศึกษารายละเอียดเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร อีกทั้งต้องผ่านการตรวจสอบประวัติเครดิต รวมถึงหลักเกณฑ์อื่นๆ ของแต่ละธนาคารมาใช้พิจารณาประกอบเพื่อดูประวัติการชำระหนี้ของลูกค้า

หลักทรัพย์ค้ำประกัน

สถาบันการเงินจะทำการสำรวจและประเมินราคาบ้านและที่ดินที่จะนำมาเป็นหลักประกัน ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2-5 วัน จากนั้นจะพิจารณาคำขอกู้โดยวิเคราะห์รายได้และหลักประกันของผู้กู้ รวมทั้งปัจจัยอื่น ๆและจะแจ้งผลการขอกู้ทรัพย์ที่ผู้กู้นำมาเป็นหลักประกัน ในกรณีผู้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ทางสถาบันการเงินหรือธนาคารก็สามารถยึดได้โดยอัตโนมัติ

“คุณสมบัติส่วนตัวของผู้ขอกู้สินเชื่อนั้นถือเป็นปัจจัยสำคัญ ในการอนุมัติสินเชื่อของธนาคารหรือสถาบันการเงิน ควรตรวจสอบความพร้อมให้ดี”

เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน

การขอสินเชื่อบ้านนั้นจำเป็นต้องหารายละเอียด และข้อมูลเบื้องต้นในการทำก่อน อยากขอสินเชื่อบ้านต้องเตรียมอะไรบ้าง ดังต่อไปนี้

1. เอกสารยืนยันตน หรือเอกสารสำคัญเอกสารยืนยันตน หรือเอกสารสำคัญเป็นเอกสารที่สามารถยืนยันตัวเองหรือมีเลขประจำตัว13 หลัก และรูปถ่ายที่สามารถยืนยันตัวเองได้
– สำเนาบัตรประชาชนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น หรือ สำเนาบัตรข้าราชการหรือสำเนาบัตรพนักงานรัฐวิสาหกิจ
-รูปถ่ายบนหน้าบัตรหรือสำเนาหนังสือเดินทาง(ใช้สำหรับคู่สมรสเป็นชาวต่างชาติ) พร้อมแนบสำเนาทะเบียนบ้าน

2. เอกสารหลักประกัน เอกสารหลักประกัน เอกสารประกอบการกู้ เพื่อสถาบันทางการเงินจะได้พิจารณาอนุมัติให้ได้อีกด้วย
-เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ (สำเนาโฉนด หน้า/หลัง)
-หนังสือแจ้งข้อมูลหลักประกัน (ขอแบบฟอร์มได้ที่สาขาธนาคาร)
-ภาพถ่ายหลักประกัน

3. เอกสารยืนยันรายได้(ผู้ที่มีรายได้ประจำ) เอกสารยืนยันรายได้ (ผู้ที่มีรายได้ประจำ) เช่น พนักงานออฟฟิศ หรือข้าราชการ เป็นต้น เอกสารที่เกี่ยวกับรายละเอียดของกระแสเงินเข้า-ออกของคุณ เพื่อตรวจสอบรายได้ของคุณ เพื่อทางสถาบันการเงินหรือธนาคารได้พิจารณาในการอนุมัติ
-หนังสือรับรองเงินเดือน และสลิปเงินเดือน
-เอกสารการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน

4. เอกสารยืนยันรายได้ (ผู้ที่มีธุรกิจส่วนตัว)เอกสารยืนยันรายได้ (ผู้ที่มีธุรกิจส่วนตัว) เช่น เจ้าของร้านอาหาร เจ้าของบริษัท เอกสารที่เกี่ยวกับรายละเอียดของกระแสเงินเข้า-ออกของคุณ เพื่อตรวจสอบรายได้ของคุณ เพื่อทางสถาบันการเงินหรือธนาคารได้พิจารณาในการอนุมัติ
-เอกสารการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน (บัญชีส่วนตัว, บัญชีกิจการ)
-ภาพถ่ายกิจการ 4-5 ภาพ และแผนที่ตั้งกิจการโดยสังเขป
-สำเนาทะเบียนการค้า, หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล พร้อมบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น
-หลักฐานการนำภาษีย้อนหลัง 1 ปี (ภงด.) บันทึกรายรับ-รายจ่าย, ใบเสร็จซื้อ-ใบเสร็จขายสินค้า

5. เอกสารยืนยันรายได้(ผู้ที่มีอาชีพอิสระ)เอกสารยืนยันรายได้ (ผู้ที่มีอาชีพอิสระ) เช่น พนักงานรับจ้าง ฟรีแลนซ์ เอกสารที่เกี่ยวกับรายละเอียดของกระแสเงินเข้า-ออกของคุณ เพื่อตรวจสอบรายได้ของคุณ เพื่อทางสถาบันการเงินหรือธนาคารได้พิจารณาในการอนุมัติ
-เอกสารการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน
-ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ (แพทย์, วิศวกร, ทนายความ, สถาปนิก)

แค่คุณวางแผนให้ดี พิจารณาสภาพคล่องทางการเงินอย่างรอบคอบ ประกอบกับการมีวินัยในการผ่อนชำระให้ตรงเวลา

เคล็ดลับในการผ่อนสินเชื่อบ้านให้หมดเร็ว

บ้านเป็นสิ่งที่สำคัญของครอบครัว เมื่ออยากมีบ้าน สินเชื่อบ้านก็สามารถช่วยคุณได้ แต่เมื่อมีบ้าน สิ่งที่ตามมานั้นก็คือหนี้ ในกรณีที่อยากโปะบ้านให้เร็วหรือผ่อนบ้านให้เร็ว tadoo มีคำแนะนำดังต่อไปนี้

1. เมื่อมีเงิน โปะให้หมด แนะนำให้ผ่อนบ้านโดยจ่ายเงินเพิ่มไป 1 เท่าทุกเดือน เพื่อให้ระยะเวลาในการผ่อนของเราจบลงเร็วขึ้นนั่นเอง ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้เราย่นระยะเวลาในการผ่อนสินเชื่อบ้านได้ถึง 70%

2. ช่วงดอกเบี้ยต่ำ โปะให้หมด ก็คือ การรีบจ่ายค่างวดบ้านให้ไวที่สุดในช่วง 3 ปีแรกนั่นเอง เพราะในช่วงเวลา 1-3 ปีแรกนั้นสถาบันการเงินจะให้ค่าดอกเบี้ยที่ต่ำมาก ทำให้เราปลดหนี้ได้ไว ไม่ต้องไปเหนื่อยตอนปลาย และใช้ชีวิตอิสระได้เร็วขึ้นนั่นเอง

3. รีไฟแนนซ์บ้าน วิธีสุดท้ายที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้กันมากที่สุด นั่นก็คือ การรีไฟแนนซ์บ้าน ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถจ่ายดอกเบี้ยได้ถูกลง เพราะฉะนั้นเคล็ดลับในการรีไฟแนนซ์บ้าน ก็คือ พยายามโปะให้ได้มากที่สุด โปะ 3 ปีแรกให้เยอะที่สุด แล้วรีไฟแนนซ์ไปหาสถาบันการเงินที่ดอกเบี้ยถูกที่สุด และโปะต่ออีก 3 ปี

ข้อแนะนำจาก Tadoo

– คนมีรายได้น้อย ควรเลือกผ่อนในระยะเวลาที่นานขึ้น 20-25 ปี เพื่อให้เงินงวดที่จะผ่อนมีจำนวนลดลง

– โดยทั่วไป ธนาคารมักให้วงเงินกู้ประมาณ 15-30 เท่าของรายได้ อาจลดหลั่นมากน้อยตามแต่กลุ่มอาชีพ

– ธนาคารมักกำหนดเงินงวดต่อเดือนประมาณ 25-30% ของรายได้รวมของผู้กู้ เช่น รายได้ 2 หมื่นบาท/เดือน ควรผ่อนอยู่ที่ 5,000-6,000 บาท/เดือน นั่นเอง

ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ

ประเภทของสินเชื่อ

คู่มือยอดนิยมสำหรับสินเชื่อ