สามารถทำได้ภายใต้เงื่อนไขไม่ได้รับความคุ้มครองต่อสภาพที่เป็นมาก่อน เพราะโดยปกติของประกันการเดินทางจะเน้นที่การคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกันอุบัติเหตุเป็นหลัก เป็นอุบัติเหตุฉุกเฉินระหว่างการเดินทาง เช่น การถูกโจรกรรมมีความเสียหายทั้งร่างกายและทรัพย์สิน อุบัติเหตุจากยานพาหนะ ไม่ได้ให้ความคุ้มครองต่อโรคหรือสภาพที่เป็นมาก่อน ดังนั้น ผู้ป่วยมะเร็งสามารถรับความคุ้มครองต่อความเสียหายจากอุบัติเหตุอื่นๆ ดังนี้
1 – ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการโจรกรรมทั้งต่อทรัพย์สินและร่างกาย
2 – อุบัติเหตุระหว่างการเดินทางอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับโรคประจำตัว
3 – คุ้มครองความเสียหายต่อกระเป๋าเดินทาง / การล่าช้าของกระเป๋าเดินทาง / การยกเลิกเที่ยวบิน
4- การเสียชีวิตและทุพพลภาพที่พิสูจน์ได้ว่าไม่มีความเกี่ยวข้องต่อสภาพที่เป็นมาก่อน
*ผู้ที่มีโรคประจำตัวควรแจ้งข้อมูลเบื้องต้นต่อบริษัทประกันให้ทราบเพื่อประเมินความเสี่ยงทุกครั้งก่อนซื้อประกันภัย
คือ สภาวะทางการแพทย์ หรือโรคประจำตัวใดๆ ที่เกิดขึ้นก่อนการเดินทาง เช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน หรือโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ภายในช่วงเวลาที่เราเรียกว่า Look back period ซึ่งส่วนมากจะนับอยู่ที่ 180 วันก่อนการเดินทาง หากภายในช่วงนี้คุณมีอาการป่วยใดๆ และในระหว่างการเดินทางจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาเพราะอาการหรือโรคนั้นๆ รวมถึงอาการแทรกซ้อนที่แพทย์วินิจฉัยว่าเกิดขึ้นจากโรคนั้น ประกันการเดินทางที่คุณมีบริษัทประกันมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธความคุ้มครองต่อโรคประจำตัวนั้น เพราะถือว่าเป็นสภาพที่เป็นมาก่อนนั่นเอง ผู้ป่วยมะเร็งบางคนก็ยังอยู่ในระยะที่ปลอดภัยสามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย จึงทำให้ผู้ป่วยบางคนสามารถเดินทางไปยังที่ต่างๆได้ทั่วโลก เหมือนคนปกติ
ถึงแม้ผู้ป่วยมะเร็งจะนับว่าเป็นบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง และกรมธรรม์บางประเภทปฏิเสธความคุ้มครองต่อบุคคลประเภทนี้ แต่ยังมีทางเลือกอื่นๆ ที่ผู้ป่วยมะเร็งสามารถทำได้ เพราะไม่ต้องตรวจสุขภาพ แต่ประกันประเภทนี้จะให้ความคุ้มครองต่อการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเป็นหลัก มีดังนี้
เป็นรูปแบบประกันที่ไม่ต้องตรวจสุขภาพ ให้ความคุ้มครองการเดินทางของคุณตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยชดเชยค่ารักษาพยาบาลเมื่อเกิดอุบัติเหตุจากการเดินทาง และการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
เป็นรูปแบบประกันชีวิตที่ไม่ต้องตรวจสุขภาพ ส่วนใหญ่เน้นการจ่ายเงินเมื่อมีการเสียชีวิต ทายาทหรือผู้รับประโยชน์จะได้รับเงินก้อนหลังจากการเสียชีวิตของผู้ทำประกัน เพื่อมาใช้จัดการศพ หรือเป็นเงินมรดก
แม้ว่าประกันเดินทางจะไม่คุ้มครองต่อโรคมะเร็ง โรคประจำตัว และอาการแทรกซ้อนจากโรคประจำตัวนั้นๆ เราก็ควรซื้อประกันเดินทางเพราะคุณยังได้รับความคุ้มครองเมื่อมีความจำเป็นต้องมีค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุอื่นๆ ที่เป็นในช่วงเดินทาง
ผู้เดินทางที่ป่วยเป็นมะเร็งควรตรวจสอบว่าคุณได้มีความคุ้มครองสำหรับโรคมะเร็งโดยเฉพาะแล้วหรือไม่ เพราะในกรมธรรม์ประกันการเดินทางจะไม่ให้ความคุ้มครองต่อความเจ็บป่วยจากโรคมะเร็ง ปัจจุบันประกันที่ดูแลโรคมะเร็งมีหลายรูปแบบทั้งคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล หรืออาจจะคุ้มครองด้วยการให้เงินชดเชยเมื่อตรวจเจอมะเร็งหรือเสียชีวิตจากมะเร็ง ทั้งนี้ เราควรศึกษาเงื่อนไขและความคุ้มครองในกรมธรรม์ให้ละเอียดก่อนซื้อเพื่อแผนประกันที่ครอบคลุมและตรงใจเรามากที่สุด
1. ประกันโรคร้ายแรง
เพราะโรคร้ายแรงบางประเภท ประกันสุขภาพไม่คุ้มครอง เช่น มะเร็ง ประกันโรคร้ายแรง แผนเสริมจึงเป็นที่นิยมซื้อพ่วงกับประกันหลัก การซื้อประกันโรคร้ายแรงจึงตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่กังวลว่าจะเป็นโรคหรือมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายแรง
ประกันโรคร้ายแรงนั้นสามารถเคลมได้ทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าบริการทางการแพทย์ต่าง ๆ รวมค่าชดเชยกรณีรักษาต่อเนื่อง เช่น การทำคีโม ฉายแสง นอกจากนี้ยังมีเงินให้หากหยุดพักรักษาตัว ปัจจุบันมีทั้งประกัน 5 โรคร้าย, ประกัน 10 โรคร้าย และประกัน 50 โรคร้าย เป็นต้น
2. ประกันมะเร็ง
ประกันมะเร็ง คุ้มครองเจาะจงที่โรคมะเร็งเป็นหลัก มีทั้งแผนคุ้มครองโรคมะเร็งรวมยกเว้นมะเร็งผิวหนัง แผนประกันโรคมะเร็งผิวหนังโดยเฉพาะ โรคมะเร็งสามารถลุกลามได้ทั่วร่างกาย ดังนั้นจึงมีประกันมะเร็งโดยเฉพาะพร้อมความคุ้มครองและวงเงินตามกรมธรรม์ที่เลือกซื้อ
17,139 รีวิว
1. ควรประเมินความเสี่ยงด้านสภาวะสุขภาพของตนเองทุกครั้งก่อนการเดินทาง
2. ทำประกันโรคร้ายแรงเสริมจากประกันการเดินทางเพื่อความคุ้มครองที่ครอบคลุม
3. ไม่ควรเดินทางตามลำพังเพราะผู้ที่มีโรคประจำตัวมีโอกาสเจ็บป่วยฉุกเฉินสูงกว่าคนปกติ