Connect with us

10 สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนออกเดินทาง

เตรียมความพร้อมก่อนการเดินทาง ช่วยให้ทริปของคุณราบรื่น ประหยัดเงิน ประหยัดเวลา

1.ศึกษาข้อมูล

เมื่อคุณคิดว่าคุณจะเดินทางไปที่ไหนสักที่หนึ่งสิ่งแรกที่คุณต้องทำก่อนนั่นคือ การศึกษาหาข้อมูลของจุดหมายปลายทางนั้น ว่าวิถีชีวิตของประชากรของที่นั่นแบบอย่างไร รูปแบบการเดินทางเป็นแบบไหน เงินที่ต้องจ่าย รวมไปถึง อัตราแลกเปลี่ยนทางการเงินต่างๆ ตรวจเช็กสภาพอากาศของสถานที่ที่จะไป ว่าในช่วงเวลาที่เราเดินทางนั้น สภาวะดินฟ้าอากาศเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อที่เราจะได้เตรียมเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อมก่อนออกเดินทาง รวมไปถึงการหารีวิวต่างๆ จากคนที่เคยไปมาก่อน

จุดเด่น

  • การเตรียมความพร้อมก่อนการเดินทางช่วยประหยัดเวลา
  • การเตรียมความพร้อมก่อนการเดินทางช่วยวางแผนค่าใช้จ่าย
  • การทำประกันการเดินทางถือเป็นการวางแผนการเดินทางด้านความเสี่ยง

2.เตรียมแผนการเดินทาง

หลังจากที่คุณได้ศึกษาข้อมูลการเดินทางจากเว็บไซต์ รีวิวต่างๆ มาแล้ว คุณควรเริ่ม การวางแผนการเดินทางคร่าวๆ เช่น เราจะเดินทางไปที่ไหน เดินทางไปอย่างไร แล้วเดินทางไปทำอะไรบ้าง ใช้เวลานานแค่ไหน เพราะแต่ละสถานที่และแต่ละกิจกรรมย่อมต้องเตรียมตัว หรือเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ แตกต่างกันไป ดังนั้นเราควรศึกษาหาข้อมูลการเดินทางให้ละเอียด และพยายามวางแผนการท่องเที่ยวให้ชัดเจนเท่าที่จะทำได้

3.การจองตั๋วเครื่องบิน / ตั๋วรถโดยสาร

เมื่อเรามีแผนการเดินทางที่ชัดเจนแล้วว่าจะเดินทางไปที่ไหน อย่างไร วันที่เท่าไหร่ เดินทางกี่วัน รวมไปถึงการได้ศึกษาข้อมูลยังสถานที่ปลายทางที่จะเดินทางไปแล้วและคิดว่าคุณมีความพร้อมสำหรับทริปนั้นแล้ว ก็เริ่มจองตั๋วเครื่องบินไปยังจุดหมายปลายทางนั้นได้เลยโดยปกติของการจองตั๋วเครื่องบินนั้นคุณจะไม่สามารถขอคืนเงินได้ หากคุณยกเลิกแผนการเดินทางของคุณ เว้นแต่การจองตั๋วเพื่อการขอวีซ่าที่คุณสามารถจองเลข booking ได้โดยไม่ต้องจ่ายเงิน ซึ่งหาก วีซ่าผ่านก็มาจ่ายเงินทีหลังได้ โดยปกติของตั๋วเครื่องบินนั้นการจองล่วงหน้าและจองในช่วงเวลาโปรโมชั่นจะได้ราคาถูกกว่าการจองตั๋วแบบกะทันหัน

“การทำประกันการเดินทางถือเป็นการวางแผนการเดินทาง เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับความเสี่ยงที่เราไม่คาดคิดจากอุบัติเหตุขณะเดินทาง หากแผนการเดินทางของคุณถูกยกเลิกสามารถเรียกค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันได้”

4.ประกันการเดินทาง/Visa

หากคุณมีแผนการเดินทางที่ไม่ได้มีการยกเว้นวีซ่านั้น การทำประกันการเดินทางเป็นสิ่งที่ถูกบังคับในการยื่นขอวีซ่าเชงเก็น แต่ในบางประเทศที่ไม่บังคับคุณควรมีประกันเดินทางด้วยเช่นกัน เพราะคือผู้ช่วยที่จะคุ้มครองเราในกรณีกระเป๋าล่าช้า ของหาย หรือถูกยกเลิกเที่ยวบินกะทันหัน แม้กระทั่งอุบัติเหตุไม่คาดคิด หรืออาการเจ็บป่วยฉุกเฉิน นอกจากนี้ ยังช่วยคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล รวมถึงค่าชดเชยกรณีพิการ หรือเสียชีวิต ตามวงเงินที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ที่เลือก

5.การจองที่พัก

เมื่อได้วางแผนการเดินทาง และจองตั๋วเครื่องบินแล้วรวมถึงประกันการเดินทางแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการจองที่พัก การจองที่พักนั้นจะต้องศึกษาเรื่องการเดินทาง ไปยังที่พักนั้นๆ ให้ละเอียด ว่าในที่พักมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและบริการใดบ้าง สถานที่ตั้งใกล้กับแลนมาร์กใด (ควรเลือกที่พักที่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวที่จะไป และอยู่ในแหล่งชุมชน ใกล้สถานพยาบาล สถานีตำรวจ จะปลอดภัยมากกว่า) รวมถึงบนรถโดยสารต่างๆ ที่ใช้บริการนั้น มีการอำนวยความสะดวกอย่างไรบ้าง และสามารถลงตรงจุดจอดใดได้บ้าง

6.วางแผนเรื่องงบประมาณ

คุณควรกำหนดงบประมาณที่ต้องใช้ในการเดินทางอย่างคร่าวๆ เพื่อให้เหมาะสมกับเงินในกระเป๋าด้วยเช่นกัน เพราะทุกกิจกรรมในการออกเดินทางไม่ว่าการโดยสาร ที่พัก อาหาร รวมไปถึงตั๋วเข้าชมสถานที่ และกิจกรรมต่างๆ ต้องมีค่าใช้จ่ายเกือบทั้งหมด ดังนั้นการวางแผนเรื่องค่าใช้จ่ายล่วงหน้าก็จะช่วยให้คุณประหยัดงบประมาณได้มากยิ่งขึ้น และทริปของคุณนั้นไม่สะดุด เช่น คุณจะใช้รถโดยสารสาธารณะไปไหนบ้าง มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ค่าอาหารแต่ละมื้อ ค่าสถานที่ที่คุณ และอย่าลืมเหลือค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ สำหรับของฝากหรือของที่ระลึกกลับมาด้วยนะ

การวางแผนการเดินทางเป็นสิ่งที่สำคัญในการเดินทางโดยสายการบิน เพราะการเตรียมความพร้อมตั้งแต่เนิ่นๆ จะทำให้คุณไปยังสนามได้ทันเวลา สายการบินในประเทศควรไปถึงสนามบินล่วงหน้าอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ส่วนสายการบินนอกประเทศควรไปถึงสนามบินล่วงหน้าอย่างน้อย 2 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ

7.เอกสารการเดินทาง

เราต้องเตรียมเอกสารสำคัญต่างๆ ให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นบัตรประจำตัวประชาชน พาสพอร์ต และ visa (ถ้ามี) หลักฐานการชำระเงินค่าเดินทาง ค่าห้องพัก และหากเดินทางไปต่างประเทศก็ควรตรวจเช็กวีซ่า พาสปอร์ตการติดต่อสื่อสารให้เรียบร้อย และควรถ่ายเอกสาร หรือถ่ายรูปเอกสารสำคัญเหล่านั้นแล้วแยกที่เก็บไว้ด้วย เพราะอาจจะสูญหายระหว่างทางได้ ตลอดจนควรศึกษาเรื่องเบอร์โทรฉุกเฉินต่างๆ ไว้ด้วย เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น

8.ยารักษาโรค

หากคุณมีโรคประจำตัวเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องพกยาติดตัวอยู่แล้ว แต่หากคุณเป็นคนแข็งแรงก็ควรที่จะพกยาสามัญประจำบ้าน หรือยาทั่วไป พกติดตัวไว้เผื่อเจ็บไข้ได้ป่วยกะทันหัน และจะได้ไม่ต้องเสียเวลาหาซื้อยาในสถานที่ที่เราไม่คุ้นเคย โดยพิจารณาได้จากกิจกรรมต่างๆ ระหว่างการเดินทาง เช่น หากเดินทางเข้าป่า ก็อย่าลืมพกยากันยุง ยาหม่อง ยาดม ปลาสเตอร์ติดแผล ซึ่งควรนำไปให้พอเหมาะ แล้วแยกใส่กล่องยาไว้ เขียนฉลากให้ชัดเจน

9.อาหาร

อาหารเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ต้องคำนึงถึง เพราะนอกจากการพกอาหารไปเองจะช่วยประหยัดแล้ว ยังช่วยประหยัดเวลาในการไปหาซื้ออาหารอีกด้วย แต่ในการเดินทางอาจไม่สะดวกในการพกอาหารบางประเภท จึงควรเลือกอาหารที่ไม่มีกลิ่น ไม่แสลงท้อง และเป็นอาหารสำเร็จรูป ถ้าขับรถไปเองก็ควรเตรียมเครื่องดื่มชูกำลัง น้ำดื่ม ขนมขบเคี้ยว หรือผลไม้ ไปกินระหว่างทางด้วย แต่ถ้าเดินทางด้วยวิธีอื่นก็ควรพิจารณาตามความเหมาะสม เช่น เดินทางโดยเครื่องบิน หรือไปต่างประเทศ ก็ควรศึกษาให้ดีว่าอาหารชนิดใดที่สามารถนำขึ้นเครื่องได้บ้าง และแพ็กเก็บให้เรียบร้อย

10.การเตรียมตัวก่อนเริ่มเดินทาง

ก่อนออกเดินทางควรเช็กความเรียบร้อยของกระเป๋าเดินทางว่าขาดอะไรบ้าง เช็กอุปกรณ์สายชาร์จมือถือ ของใช้ส่วนตัวที่จำเป็น เอกสารต่างๆ ที่ต้องใช้ รวมไปถึงการเช็กความเรียบร้อยของบ้าน / ที่พัก ก่อนจากไป เช่น ปิดหน้าต่าง ปิดปลั๊กไฟ ล้างทำความสะอาดจาน จาม ให้เรียบร้อย และที่สำคัญไม่ควรนอนดึก ในคืนก่อนออกเดินทางเพราะจะทำให้ทริปของคุณหมดสนุกในวันเดินทางก็เป็นได้

ผลิตภัณฑ์ประกันการเดินทาง

ประเภทของประกันการเดินทาง

คู่มือยอดนิยมสำหรับประกันการเดินทาง