ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ให้ผลตอบแทนอย่างไร
ทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์นอกจากได้ประโยชน์จากความคุ้มครองชีวิต ยังได้ออมเงินอีกด้วย
ทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์นอกจากได้ประโยชน์จากความคุ้มครองชีวิต ยังได้ออมเงินอีกด้วย
โดยปกติของประกันชีวิตคือการทำประกันเพื่อคุ้มครองชีวิตที่ผู้ทำประกันจะได้รับค่าสินไหมทดแทนเมื่อเสียชีวิต แต่ในปัจจุบันได้มีรูปแบบการทำประกันชีวิตที่หลายมากขึ้น อย่างเช่นการทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เป็นการประกันชีวิตที่บริษัทจะจ่ายจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัย เมื่อมีชีวิตอยู่ครบกำหนดสัญญา หรือจ่ายเงินเอาประกันภัยให้แก่ผู้รับประโยชน์เมื่อผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตลงภายในระยะเวลาประกันภัย การประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์เป็นส่วนหนึ่งของการคุ้มครองชีวิตและการออมทรัพย์ ส่วนของการออมทรัพย์ คือส่วนที่ผู้เอาประกันภัยได้รับคืนเมื่อสัญญาครบกำหนด
ในการประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ให้ความคุ้มครองทั้งชีวิตและสะสมทรัพย์นั้นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าระดับความคุ้มครองชีวิตอาจจะต่ำกว่าประกันชีวิตเพียงอย่างเดียว แต่ก็ยังมีความคุ้มค่ามากหากมิได้พิจารณาได้รับเงินก้อนใหญ่มากนักเมื่อเสียชีวิต นอกจากจะได้การคุ้มครอง ในกรณีที่เสียชีวิต หรือทุพพลภาพตามที่ประกันชีวิตทั่วไปควรจะมีแล้ว เรายังได้ผลตอบแทนเมื่อครบกำหนดสัญญาเงินคืนอีกด้วย
ในกรณีที่คุณไม่สามารถซื้อประกันหลายๆ อย่างพร้อมกันได้ อาจจะด้วยสภาพคล่องทางการเงิน แต่ก็ไม่สามารถประมาทกับวันข้างหน้าได้ การซื้อประกันออมทรัพย์ ที่ให้ผลทั้งการคุ้มครอง และผมการออมช่วยจัดระเบียบการออมเงินของคุณด้วย การซื้อประกันชีวิต แบบออมเงิน ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับคุณ
ในการทำประกันชีวิตแบบออมทรัพย์นั้น นอกจากจะมีประโยชน์ด้านการคุ้มครองชีวิต และการออมเงินแล้ว ผู้ทำประกันสามารถเลือกระยะเวลาการออมได้ 2 แบบ คือ ประกันสะสมทรัพย์ระยะสั้น ได้ผลประโยชน์รวดเร็ว ระยะจ่ายดอกเบี้ยก็สั้น ใช้ระยะเวลาราวๆ 3 – 5 ปี ขึ้นกับสัญญาของประกัน ซึ่งน่าจะตอบโจทย์ใครหลายๆ คน เหมาะกับคนที่มีเป้าหมายทางการเงินที่แน่ชัด เช่น อยากสะสมเงินก้อน เพื่อนำไปใช้ลงทุนธุรกิจหลังเรียนจบ เป็นต้น ประกันสะสมทรัพย์ระยะยาว หากมีเป้าหมายเก็บเงินก้อนโตในระยะยาว (5 ปีขึ้นไป จนถึง 10 ปีขึ้นไป) มีข้อดีที่เบี้ยประกันไม่สูงมาก แถมยังมีกรมธรรม์ที่คุ้มครองชีวิตได้นานๆ อาจจะไม่เหมาะกับคนที่รีบนำเงินก้อนเหล่านี้มาใช้
“ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์เป็นประกันชีวิตทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ได้ต้องการความคุ้มครองชีวิตที่สูงมากนัก เพราะประกันแบบออมทรัพย์จะได้รับผลตอบแทนเมื่อเสียชีวิตต่ำกว่าประกันชีวิตอย่างเดียว”
เมื่อผู้ประกันได้ผลตอบแทนจากการออมเงินในประกันชีวิตประเภทนี้ ผลตอบแทนที่ได้จะไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งแตกต่างจากการฝากในธนาคารโดยสิ้นเชิง เช่น หากเราซื้อพันธบัตรรัฐบาล หรือ ลงทุนในหุ้นกู้ ที่ต้องเสียภาษีอีกถึง 15% แต่ผลตอบแทนจากประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ และไม่ถูกหักอะไรเลย ทำให้เราได้ผลตอบแทนแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย และที่สำคัญประกันชีวิตประเภทนี้ยังสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้มากถึง 100,000 บาท ลดหย่อนได้ตามจำนวนปีที่คุณชำระเบี้ยประกันชีวิต สำหรับใครที่เข้าข่ายผู้เสียภาษี การทำประกันชีวิตดีๆ สักฉบับถือว่าคุ้มค่า
ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่พร้อมเสี่ยง หรือถ้าเสี่ยงก็อยากให้มีความเสี่ยงน้อยที่สุด ดังนั้นการทำประกันสะสมทรัพย์จึงเป็นอีกตัวเลือกสำหรับใครที่ไม่ชอบความเสี่ยง และมีสภาพคล่องทางการเงินต่ำ เพราะอย่างน้อยประกันแบบออมทรัพย์จะมีเงินก้อนให้คนเมื่อครบกำหนด
ถึงแม้ประกันชีวิตประเภทนี้จะได้รับผมตอบแทนที่ไม่สูงเหมือนประกันชีวิตทั่วไป แต่มีข้อดีที่มั่นคง มียอดผลตอบแทนที่ชัดเจน ทำให้เราสามารถวางแผนเกี่ยวกับเงินก้อนดั่งกล่าวได้ในอนาคตผู้ทำประกันที่ไม่ชอบความเสี่ยง อาจเป็นคนที่ไม่มีความชำนาญเรื่องการลงทุน หรือ บุคคลที่มีสภาพคล่องทางการเงินต่ำ ดังนั้นการทำประกันชีวิตถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีอีกทางเลือกหนึ่ง เพราะสามารถเลือกรับความคุ้มครองชีวิตและได้รับเงินคืน ถือเป็นการบังคับให้เรามีวินัยในการใช้จ่ายอีกด้วย เหมาะกันผู้ทำประกันทุกสายอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นงานประจำ และฟรีแลนซ์ก็ตาม ทุกวันนี้ประกันชีวิต แบบสะสมทรัพย์ มีให้คุณเลือกทำแผนประกันอย่างหลากหลาย และแบ่งแยกย่อยให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ผู้ทำมากยิ่งขึ้น สามารถทำได้แม้อายุยังน้อย เนื่องจากบางธุรกรรม บางการลงทุนมักจะจำกัดอายุผู้ทำ
1. ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ – มีข้อดีที่ช่วยสร้างระเบียบวินัยให้กับการออม มีผลตอบแทนดี ได้เงินคืน และบังคับให้คุณมีนิสัยออมเงินก้อนในระยะยาวๆได้ ส่วนข้อเสียคือ เบี้ยประกันแพง และอาจจะไม่คุ้มครองได้เท่าที่ควร
2. ประกันชีวิตเพื่อการลงทุน – มีเบี้ยประกันที่ถูก ให้คุณกำหนดปรับเบี้ยและทุนประกันได้เอง ที่สำคัญ ได้ผลตอบแทนสูงกว่า แต่มีข้อเสียคือ ต้นทุนค่าประกันเองก็จะปรับขึ้นตามอายุผู้ทำเรื่อยๆ ไม่คงที่ หมายความว่า ยิ่งอายุมาก ยิ่งต้องจ่ายเบี้ยมาก
ประกันชีวิตทั้งสองชนิด ต่างมีข้อแตกต่าง ข้อดีที่ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการในเรื่องผลตอบแทน และไลฟ์สไตล์ของผู้ที่ต้องการทำกรมธรรม์ เช่น หากคุณเป็นคนวัยเกษียณ การทำประกันชีวิตสะสมทรัพย์ เพื่อสะสมเงินในระยะสั้นๆ เพื่อมอบให้ลูกหลาน อาจจะเหมาะกว่า ประกันชีวิตเพื่อการลงทุน ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นมากกว่า ส่วนประกันชีวิตเพื่อการลงทุน จะเหมาะกับผู้ที่อยากได้ผลตอบแทนสูงเพิ่มขึ้น ต่างจากประกันชีวิตทั่วๆ ไป แต่ความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนกับหุ้น หรือกองทุนต่างๆ